ปลาสวายเป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ซึ่งพบเห็นอยู่ทั่วไป ทั้งในประเทศไทย เขมร
และเวียดนาม สำหรับประเทศไทยมีผู้นิยมเลี้ยงปลาสวายทั้งในบ่อและในกระชัง
จังหวัดที่เลี้ยงปลาสวายในกระชังกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ได้แก่จังหวัดอุทัยธานี และนครสวรรค์
โดยสร้างกระชังขนาดใหญ่เลี้ยงเรียงรายอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำ
นับว่าเป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง เพราะเนื้อมีรสดี
มีปริมาณมากสามารถปรุงแต่งเป็นอาหารได้หลายแบบหลายรส
รูปร่างลักษณะและนิสัย
ปลา
สวายเป็นปลาที่อยู่ในสกุลเดียวกับปลาเทโพ เพราะมีรูปร่างขนาด ลักษณะ
ตลอดจนความเป็นอยู่ไปในลักษณะเดียวกัน เป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวเรียวยาว
ลักษณะด้านข้างค่อนไปทางอวบกลมมีหลังข้างตรง ส่วนหน้าลาดลงถึงปาก
และปากกว้างทู่มีหนวดสั้น ๆ 2 คู่ มีกระโดงครีบหลัง 1 อัน และครีบอกข้างละ 1
คู่ ปลายหางยาวและเว้าลึกเป็นแฉก หลังมีสีหม่นเข้ม
ตามครีบจะมีสีเหลืองอ่อน ส่วนที่ปลายหางครีบหลัง
และครีบอกจะมีสีค่อนข้างดำปลาเทโพ มีลักษณะส่วนสัดคล้ายคลึงกับปลาสวาย
แต่ที่นับว่าแตกต่างใช้เป็นจุดสังเกตได้ง่าย ๆ คือ
ปลาเทโพจะมีจุดกลมดำที่เหนือโคนครีบหู หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หู"
อีกข้างละหนึ่งจุด
ในประเทศ
ไทย แหล่งที่พบปลาสวายชุกชุมมากที่สุด
อยู่ในบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาโดยทั่วไป คือ มักพบเห็นตามแม่น้ำ ลำคลอง
ตั้งแต่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อยไปถึงจังหวัดนครสวรรค์
ปลาทั้งสองชนิดนี้มักจะว่ายรวมกันไปเป็นฝูง ๆ
อยู่ในน้ำลึกซึ่งมีกระแสน้ำไหลถ่ายเทได้ชอบรวมกลุ่มพักอยู่ในที่ร่มใกล้
พันธุ์ไม้น้ำ เช่น ตามใต้แพผักบุ้งที่มีกร่ำแพสนุ่น หรือใต้กอผักตบชวา
ปลาสวายเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่ายเมื่อถูกรบกวนหรือถูกทำอันตราย
ลักษณะเพศและการแพร่ขยายพันธุ์
ลักษณะ
เพศ ปลาสวายตัวผู้มีท้องเรียบไม่นูน พื้นท้องแข็งกว่าตัวเมีย
ลักษณะช่องเพศเป็นรูปวงรี แคบเล็ก มีสีแดงอ่อน เมื่อใช้มือบีบที่ช่องเพศเบา
ๆ จะมีน้ำเชื้อสีขาวไหลออกมาให้เห็นได้ชัด
ส่วนตัวเมียมีลักษณะที่พอจะสังเกตได้ชัด คือบริเวณส่วนท้องอูมเป่ง
กลมนูนออกมาเห็นได้ถนัด พื้นท้องมีผิวเนียนนิ่ม ลักษณะของช่องเพศ
เป็นรูปรีมีขนาดกว้างใหญ่กว่าของตัวผู้
นอกจากนั้นตรงบริเวณช่องเพศยังมีลักษณะพองเป่งปรากฏเป็นสีแดงเข้มฤดูและ
แหล่งวางไข่
ปลาสวายจะวางไข่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติในบริเวณที่มีน้ำท่วมในฤดูน้ำมาก
ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม
ไข่ปลาสวายจะฟักออกเป็นตัวในระยะเวลา 27-33 ชั่วโมงหลังจากวางไข่
ที่อุณหภูมิ 28-31 องศาเซลเซียส
จาก
การสอบถามผู้ที่ได้เคยทำการทดลองเลี้ยงปลาสวายในกระชัง
และได้ทดลองเลี้ยงในบ่อ
ปรากฏว่าทั้งปลาสวายและปลาเทโพจะไม่วางไข่แพร่พันธุ์ในบ่อหรือในกระชังที่
เลี้ยงไว้เลย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปลาสวายจะไม่วางไข่ในบ่อและในกระชัง
แต่ก็มีผู้นิยมเลี้ยงปลาสวายในบ่อและในกระชังกันมาก
ทั้งนี้เพราะเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินง่าย โตเร็ว มีน้ำหนักมาก
เนื้อมีรสอร่อย และในท้องตลาดจะมีผู้รับซื้อในราคาที่ดีพอสมควร
ชาว
ประมงที่เลี้ยงปลาสวายในบ่อ (หรือในกระชัง)
จะต้องซื้อหาลูกปลาสวายขนาดเล็กประมาณ 5-12 เซนติเมตร มาจากแหล่งขายลูกปลา
ลูกปลาสวายที่นำมาจำหน่าย ส่วนมากจะได้มาจากแหล่งต่าง ๆ ในลุ่มน้ำภาคกลาง
เช่น ในท้องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี อุทัยธานี อ่างทอง
นครสวรรค์และพิษณุโลก
การเก็บรวบรวมลูกปลาสวายจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
การ
เก็บรวมรวมลูกปลาสวาย นิยมใช้เครื่องมือจับปลาแบบเครื่องกั้นที่เรียกว่า
"ไซมาน" หรือแห และอาจใช้ลอบยืนได้ โดยใช้กล้วยสุกหรือปลาเน่า
เป็นเหยื่อล่อ
การจับลูกปลาสวายจากแหล่งน้ำธรรมชาตินี้จะจับลูกปลาได้มากในเดือนสิงหาคมถึง
เดือนกันยายน แต่ถ้าปีใดมีฝนตกเร็วกว่าปกติ ก็จะจับลูกปลาได้เร็วขึ้น
ปีไหนฝนตกชุกน้ำท่าบริบูรณ์ดีก็จะจับลูกปลาได้มาก
เพราะลูกปลาสวายชอบผุดว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำอยู่เสมอ ๆ
ฉะนั้นจะสังเกตเห็นได้ง่ายกว่าปลาชนิดอื่น ๆ
ในเวลาที่ได้รับอาหารก็จะยิ่งผุดขึ้นบ่อยครั้ง
ปลา
สวายไม่กระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงในกระชังเพราะถึง
แม้ว่าปากของกระชังจะอยู่สูงกว่าระดับน้ำเล็กน้อย
และไม่มีฝาปิดปากกระชังก็ตาม ปลาก็จะไม่กระโจมออก
แต่การเลือกทำเลเลี้ยงในกระชังนี้ต้องอยู่ในแม่น้ำลำคลองที่ค่อนข้างสงบ
ไม่มีเรือยนต์หรือเรือหางยาวสัญจรไปมามากนัก
เพราะปลาสวายเป็นปลาที่ตื่นตกใจง่าย
ฉะนั้นหากจะเลี้ยงในบ่อที่มีทางระบายน้ำถ่ายเทได้ดี
นับว่าเหมาะกว่าเลี้ยงในกระชังตามแม่น้ำลำคลองซึ่งมีคลื่นรบกวนอยู่เนือง ๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น